สารบัญเนื้อหา

คดีอาญา คืออะไร

         การกระทำความผิดจนกลายเป็นคดีความ เป็นปัญหาทางสังคมที่เชื่อว่าส่วนหนึ่งเกิดจากชาวบ้านขาดความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมายอย่างถูกต้อง เพราะกฎหมายมีความซับซ้อน ต้องตีความ และเป็นเรื่องยากที่จะทำการเข้าใจ เพื่อเป็นความรู้พื้นฐานที่เปรียบเสมือนอาวุธไว้ป้องกันตนเองจากการกระทำความผิด https://thanalaw.co.th/  ความหมายและความรู้เกี่ยวคดีอาญามาแนะนำครับ

      คดีอาญา คือ คดีที่เกี่ยวกับการกระทำผิดและโทษซึ่งกำหนดไว้ในประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายอื่น ๆ เช่น พระราชบัญญัติต่าง ๆ ซึ่งมีโทษในทางอาญา โดยโทษทางอาญา มี 5 สถาน ได้แก่ ประหารชีวิต จำคุก กักขัง ปรับ และริบทรัพย์สิน ความผิดอาญา เช่น ทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สิน ขโมยของไป หรือทำร้ายจิตใจ

คดีอาญามีกี่ประเภท

      ความผิดทางอาญามี 2 ประเภท คือ ความผิดต่อส่วนตัวสามารถยอมความได้ และความผิดอาญาแผ่นดินยอมความไม่ได้ ดังนี้

1. ความผิดต่อส่วนตัว

     สามารถยอมความได้ เป็นความผิดในตัวเอง คือ ความผิดที่คนทั่วไปเห็นชัดเจนว่าเป็นความผิดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน ความผิดประเภทนี้ เมื่อยอมความกันแล้วการดำเนินคดีก็จะสิ้นสุดลง เช่น

  • การหมิ่นประมาท
  • การทำให้เสียทรัพย์
  • การฉ้อโกง
  • การยักยอกทรัพย์

2. ความผิดอาญาแผ่นดิน

     ยอมความไม่ได้ เป็นความผิดเพราะกฎหมายห้าม คือ ความผิดที่เกิดจากการที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นความผิด และเป็นความผิดที่ทำให้สังคมเสียหาย โดยอาจมิได้เกี่ยวกับศีลธรรม แม้ไม่มีการแจ้งความ เจ้าหน้าที่ก็สามารถดำเนินคดีได้ และอัยการสั่งฟ้องได้โดยไม่มีต้องมีผู้เสียหายร้องทุกข์ เช่น

  • ความผิดฐานฆ่าคนตาย 
  • ชิงทรัพย์ 
  • ปล้นทรัพย์ 
  • ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 
  • บุกรุกในเวลากลางคืนหรือมีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญ
  • ฉ้อโกงประชาชน
  • ลักทรัพย์

โทษทางอาญา 5 สถาน

     อัตราโทษทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 18 กำหนดโทษทางอาญาไว้ 5 สถาน เรียงลำดับจากหนักที่สุดไปเบาที่สุด ได้แก่

  1. โทษประหารชีวิต ปัจจุบันดำเนินการด้วยวิธีฉีดยาหรือสารพิษให้ตาย
  2. โทษจำคุก โดยผู้ต้องโทษจะถูกขังในเรือนจำ วันแรกที่เข้าไปในคุกจะถูกนับเป็น 1 วันเต็ม ไม่จำเป็นต้องครบ 24 ชม. กรณีกำหนดระยะจำคุกเป็นเดือนจะนับ 30 วันเต็ม เป็น 1 เดือน หากกำหนดเป็นปี ใช้การคำนวณปีปฏิทิน
  3. โทษกักขัง ผู้ต้องโทษจะถูกกักขังไว้ในสถานที่กักขังที่ไม่ใช่เรือนจำ สถานีตำรวจ หรือสถานที่ควบคุมผู้ต้องหาของพนักงานสอบสวน
  4. โทษปรับ  เป็นการนำเงินของผู้ถูกปรับเข้ารัฐ มิใช่นำไปให้แก่ผู้เสียหาย โดยผู้ต้องโทษต้องชำระเงินตามจำนวนที่ศาลสั่ง หากไม่จ่ายภายใน 30 วันนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา อาจถูกยึดทรัพย์สินใช้ค่าปรับ หรือถูกกักขังแทนค่าปรับ กรณีศาลมีเหตุสงสัยว่าจำเลยจะไม่จ่ายค่าปรับ ศาลอาจสั่งให้กักขังจำเลยแทนค่าปรับไปก่อนก็ได้ ถืออัตรา 500 บาทต่อหนึ่งวัน และหักวันขังในวันที่ถูกควบคุมตัวมาก่อนด้วย ไม่ว่าจะเป็นชั้นสอบสวนหรือชั้นศาล
  5. โทษริบทรัพย์ จะริบเฉพาะทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทาความผิดเท่านั้น หรือเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยการทำความผิด 

คดีอาญา ต้องฟ้องศาลไหน

     มาตรา 157 บัญญัติว่า “การฟ้องคดีอาญาให้ยื่นฟ้องต่อศาลใดศาลหนี่งที่มีอำนาจตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น” การฟ้องคดีอาญาต่อศาลใดศาลหนี่งที่มีอำนาจตาม ป.วิ.อ. มาตรา 157 แบ่งออก 2 กรณี

1. ศาลที่มีอำนาจตามมาตรา 22 ถึงมาตรา 27 เรียกว่า เขตศาล 

  • โดยหลักแล้ว ความผิดเกิดขึ้นอ้างหรือเชื่อว่าได้เกิดขึ้นในเขตอำนาจศาลใดให้ชำระที่ศาลนั้น
  • อาจมียกเว้นหลายประการ เช่น ให้ชำระที่ศาลในท้องที่ที่จำเลยมีที่อยู่หรือถูกจับ หรือให้ชำระที่ศาลในท้องที่ที่มีการสอบสวน หรือโอนคดี

2. ศาลที่มีอำนาจตามกฎหมายอื่น เรียกว่า อำนาจศาล

คดีอาญา กับ คดีแพ่ง ต่างกันอย่างไร

    คดีอาญา คือ คดีที่มีผู้กระทำความผิดที่มีโทษทางอาญา การดำเนินคดีอาญาจะเป็นไปเพื่อพิสูจน์ความผิดและให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษเพื่อชดใช้สิ่งที่ได้ทำลงไป การดำเนินคดีอาญาจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์สำหรับคดีอาญาอันยอมความได้ ส่วนคดีอาญาแผ่นดิน การดำเนินคดีจะเริ่มต้นขึ้นทันทีที่มีการกระทำความผิด เพราะคดีประเภทนี้เป็นคดีที่มีความเสียหายต่อประชาชนโดยรวม และรัฐเป็นผู้เสียหายโดยตรง การดำเนินคดีจึงเริ่มต้นได้ทันทีโดยไม่ต้องมีผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์

คดีแพ่ง คือ คดีที่มีการโต้แย้งสิทธิหน้าที่กันระหว่างบุคคล 2 ฝ่าย แบ่งเป็น คดีมีข้อพิพาท และ คดีไม่มีข้อพิพาท ดังนี้

  • คดีมีข้อพิพาท มีการโต้แย้งสิทธิ หน้าที่กัน เช่น ฟ้องให้จ่ายหนี้ ฟ้องผิดสัญญาซื้อขาย ฟ้องเรียกค่าเสียหายเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ฟ้องเรียกค่าปรับคืน ฟ้องเรียกค่านายหน้า
  • คดีไม่มีข้อพิพาท เป็นคดีที่จะต้องร้องขอให้ตัวเองมีสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งจากศาล เช่น ขอเป็นผู้จัดการมรดก ขอเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ ขอทำนิติกรรมแทนผู้เยาว์ ขอให้ศาลสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถ เสมือนไร้ความสามารถ หรือสาบสูญ ขอแสดงสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ ขอสิทธิการเลี้ยงดูบุตร

     การดำเนินคดีแพ่งจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีการฟ้องศาล เพราะคดีแพ่งเป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวของแต่ละบุคคล ที่สามารถตกลงกันเองได้โดยไม่ต้องให้รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง

8 คำถามที่พบบ่อย คดีอาญา

1. คดีอาญาสามารถยอมความกันได้หรือไม่ ?

    ตอบ  คดีอาญา ไม่สามารถยอมความกันได้ เพราะเป็นคดีที่มีความเสียหายต่อประชาชนโดยรวม และรัฐเป็นผู้เสียหายโดยตรง  ยกเว้นเป็นความผิดต่อส่วนตัว

2. คดีอาญา ที่มีความเสียหายต่อประชาชนโดยรวม หากไม่มีผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ ดำเนินคดีได้หรือไม่

    ตอบ สามารถดำเนินคดีได้ทันทีโดยไม่ต้องมีผู้เสียหา

3. การดำเนินคดีอาญา ผู้เสียหายสามารถทำได้โดยวิธีใดบ้าง

     ตอบ ทำได้โดย ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน หรือฟ้องคดีด้วยตนเองต่อศาล

4. คดีอาญามีอายุความกี่ปี

     ตอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 95 บัญญัติไว้ว่า ในคดีอาญา ถ้า มิได้ฟ้อง และได้ตัว ผู้กระทำความผิดมายังศาล ภายในกำหนด ดังต่อไปนี้ นับแต่ วันกระทำความผิด เป็นอันขาดอายุความ

  1. 20 ปี สำหรับความผิด ต้องระวางโทษ ประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือ จำคุก 20ปี
  2. 15 ปี สำหรับความผิด ต้องระวางโทษ จำคุก กว่าเจ็ดปี แต่ยังไม่ถึง 20 ปี
  3. 10 ปี สำหรับความผิด ต้องระวางโทษ จำคุก กว่า 1 ปี ถึง  7 ปี
  4. 5 ปี สำหรับความผิด ต้องระวางโทษ จำคุก กว่า 1 เดือน ถึง 1 ปี
  5. 1 ปี สำหรับความผิด ต้องระวางโทษ จำคุก ตั้งแต่ 1 เดือนลงมา หรือ ต้องระวางโทษอย่างอื่น

5. คดีอาญา ถอนฟ้องได้ไหม

    ตอบ คดีอาญา สามารถถอนฟ้องได้ เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นพนักงานอัยการหรือผู้เสียหายได้ยื่นฟ้องผู้กระทำความผิดไว้แล้ว ต่อมาโจทก์ถอนฟ้อง แต่โดยมีกฎหมายที่กำหนดหลักเกณฑ์การถอนฟ้อง ทั้งนี้หลักเกณฑ์การถอนฟ้อง มีทั้งการถอนฟ้องคดีความผิดต่อส่วนตัว(ความผิดอันยอมความได้) และการถอนฟ้องในคดีผิดอาญาแผ่นดิน (ความผิดอันยอมความได้)

6. คดีอาญาต่อสู้กี่ศาล คดีสิ้นสุด

     ตอบ คดีอาญาในกระบวนการยุติธรรม โจทก์และจำเลยสามารถต่อสู้คดีได้ 3 ชั้นศาล ได้แก่ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา  การให้สิทธิคู่ความต่อสู้คดีได้ 3 ชั้นศาล ก็เพื่อให้โอกาสได้ต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ และยังเป็นการเปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบและทบทวนคำพิพากษาของศาลชั้นต้นโดยศาลสูงตามลำดับ 

7. คดีอาญา ติดคุกไหม

     ตอบ คดีอาญา เป็นคดีที่เกี่ยวกับการกระทำผิดและต้องโทษตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายอื่น รวมทั้งพระราชบัญญัติต่าง ๆ ซึ่งมีโทษอยู่ 5 สถาน คือ โทษประหารชีวิต การจำคุก กักขัง โทษปรับ  และ โทษริบทรัพย์  ดังนั้นคดีอาญาจึงเป็นโทษที่ต้องจำคุกหรือติดคุก แต่ทั้งนี้ต้องรับโทษแบบไหน ขึ้นอยู่กับความผิดและโทษที่กำหนดเอาไว้ตามแต่ละกรณี

8. คดีอาญา ไม่มีทนาย ทำอย่างไร

     ตอบ การเป็นคดีความ โดยเฉพาะคดีอาญา ไม่มีทนายความได้หรือไม่ ตามหลักกฎหมายไม่ได้บังคับว่าเราจะต้องมีทนายความเพื่อเริ่มต้นฟ้องร้อง แต่เนื่องจากทนายความเชี่ยวชาญเรื่องของกฎหมาย รู้กระบวนการและขั้นตอนของการดำเนินคดี การมีทนายจึงมีประโยชน์ต่อคดีมากกว่า

สำนักงานกฎหมายธนกฤช

25 ซอยเจริญนคร 36 ถนนเจริญนคร แขวงบางลำภูล่าง กรุงเทพมหานคร 10600

สาระความรู้กฏหมาย

ฉ้อโกงประชาชน คืออะไร

ในยุคที่เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น การฉ้อโกงผ่านช่องทางออนไลน์ก็กลายเป็นปัญหาที่พบเห็นได้บ่อยและส่งผลกระทบหนักต่อประชาชนทั่วไป คำว่า “ฉ้อโกงประชาชน” จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรทำความเข้าใจให้ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลโกงต่าง ๆ ที่มีการเผยแพร่ในวงกว้าง ความหมายของการฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงประชาชน หมายถึง การกระทำโดยทุจริตหลอกลวงประชาชนทั่วไป ด้วยการแสดงข้อความเท็จหรือปกปิดความจริง เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินหรือผลประโยชน์จากผู้อื่น โดยไม่จำเป็นว่าผู้เสียหายจะต้องเป็นกลุ่มเล็ก ๆ หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น แต่หมายรวมถึงการหลอกลวงที่เผยแพร่สู่สาธารณะ เช่น การไลฟ์สดผ่านโซเชียลมีเดีย หรือการโพสต์โฆษณาชวนลงทุนในโปรเจกต์ที่ไม่มีอยู่จริง ตัวอย่างเช่น หากมีคนอ้างว่าเป็นกัปตันสายการบิน สามารถบินไปซื้อสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ แล้วเปิดรับเงินลงทุนจากประชาชนทั่วไปผ่านไลฟ์สด

กรรมการยักยอกทรัพย์ เคสจริง เกิดขึ้นแล้ว!!

ในโลกธุรกิจ การบริหารจัดการบริษัทอย่างโปร่งใสและมีความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทบาทของกรรมการบริษัทที่มีหน้าที่ดูแลการดำเนินงานและการเงินขององค์กร แต่ในความเป็นจริงก็มีกรณีที่กรรมการบางคนใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางที่ผิด ด้วยการยักยอกทรัพย์สินของบริษัทเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงและสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับบริษัทและผู้ถือหุ้น เรื่องราวของกรรมการที่ยักยอกทรัพย์ เคสที่เกิดขึ้นจริงที่เราเคยรับผิดชอบนั้น เป็นกรณีที่กรรมการบริษัทซึ่งเป็นผู้บริหารหลัก มีหน้าที่ดูแลการเงินและบัญชีของบริษัททั้งหมด แต่กลับใช้โอกาสนี้ในการยักยอกเงินของบริษัทไปใช้จ่ายส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ยังมีการสร้างบัญชีปลอมขึ้นมาเพื่อปกปิดการกระทำผิด เช่น การจ้างบุคลากรที่ไม่มีตัวตนจริง หรือการจ่ายค่าสินค้าบริการที่ไม่มีอยู่จริง โดยอาศัยเอกสารปลอม เช่น ใบวางบิลหรือ voucher ปลอม เพื่อหลอกลวงผู้ตรวจสอบและเจ้าของหุ้น การกระทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดความไว้วางใจของผู้ถือหุ้นและบริษัทเท่านั้น แต่ยังเป็นความผิดทางกฎหมายที่มีบทลงโทษอย่างรุนแรง ผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้น เมื่อกรรมการยักยอกทรัพย์สินของบริษัท

โดนโกง ต้องรีบฟ้อง! มีอายุความแค่ 3 เดือน

การฉ้อโกงเป็นอาชญากรรมที่เกิดขึ้นเมื่อมีผู้ใช้วิธีการหลอกลวง บิดเบือนข้อเท็จจริง หรือสร้างความเชื่อถือผิด ๆ เพื่อให้ผู้อื่นส่งมอบทรัพย์สินหรือเงินทอง การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการละเมิดกฎหมายอย่างร้ายแรง และผู้เสียหายสามารถดำเนินคดีได้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา ตัวอย่างการฉ้อโกงในรูปแบบการลงทุน กรณีที่พบบ่อยในปัจจุบันคือ การหลอกลงทุนในโครงการต่าง ๆ ที่ไม่มีตัวตน เช่น การมีบุคคลมาเสนอโครงการจัดคอนเสิร์ตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อ้างว่าต้องการเงินทุนประมาณ 1.5 ล้านบาท และชักชวนให้นักลงทุนแต่ละคนลงทุนในจำนวน 500,000 บาท ผู้หลอกลวงมักจะสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการเสนอผลตอบแทนที่สูงมาก เช่น ได้กำไรถึง 10% ภายในระยะเวลาเพียง

ส่งงานแล้วไม่จ่ายเงิน ทำยังไงดี

หลายคนที่ทำงานอิสระหรือรับงานโปรเจกต์ต่าง ๆ คงเคยเจอปัญหาเดียวกันนี้ นั่นคือ เมื่อส่งงานให้ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดและสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ทำงานเป็นอย่างมาก ลักษณะการผิดสัญญาที่ควรรู้ เมื่อเราส่งงานให้ลูกค้าครบถ้วนตามที่ตกลงกันไว้ แต่ลูกค้าไม่ชำระเงินค่าตอบแทน นี่ถือเป็นการผิดสัญญาว่าจ้างทำของอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบ งานเขียน งานพัฒนาซอฟต์แวร์ หรืองานในรูปแบบอื่น ๆ การผิดสัญญาในลักษณะนี้ เกิดขึ้นเมื่อฝ่ายหนึ่งปฏิบัติตามข้อตกลงครบถ้วนแล้ว แต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมชำระเงินตามที่ควรจะเป็น ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ของผู้ทำงานและสามารถดำเนินการทางกฎหมายได้ ขั้นตอนแรกในการแก้ไขปัญหา เมื่อเจอปัญหาเช่นนี้ สิ่งแรกที่ควรทำคือ การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าอย่างสุภาพและเป็นระบบ ไม่ควรใช้อารมณ์หรือพูดจาในทำนองที่อาจทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงไปกว่าเดิม