สารบัญเนื้อหา

คดีแพ่ง คืออะไร

       คดีที่เกี่ยวข้องกับการทำผิดสัญญาข้อตกลง หรือมีปัญหาโต้แย้งกันเรื่องผลประโยชน์ จนกลายเป็นคดีความ ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้จะเป็นความผิดทางแพ่งไม่มีโทษจำคุก แต่โทษสูงสุดคือถูกตัดสินให้ล้มละลาย ก็อาจทำให้ชีวิตลำบาก อีกทั้งการถูกฟ้องร้อง ยังทำให้เสียเวลา เสียโอกาสมากมาย

     คดีแพ่ง คือ คดีข้อพิพาทที่มีข้อขัดแย้ง หรือข้อโต้แย้ง กล่าวหากันเรื่องเกี่ยวกับสิทธิที่มีอยู่ตามกฎหมายของบุคคลอื่น เป็นคดีที่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของบุคคล 2 ฝ่ายซึ่งไม่สามารถตกลงกันได้ และเป็นเรื่องที่กฎหมายกำหนดให้บุคคลใช้สิทธิทางศาล เพื่อรับรองคุ้มครองสิทธิของตน ซึ่งมีทั้งขอให้อีกฝ่ายชดใช้เงิน คืนของ จ่ายค่าเสียหาย หรือให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยการรับผิดทางแพ่งไม่มีโทษปรับ จำคุก กักขัง ริบทรัพย์สิน ประหารชีวิตเหมือนคดีอาญา

คดีแพ่งกับคดีอาญาต่างกันอย่างไร

   คดีแพ่งกับคดีอาญา หรือความผิดทางแพ่งและความผิดทางอาญา มีความแตกต่างกันซึ่งสามารถแยกเป็นข้อ ๆ ให้เห็นได้ชัดเจน ดังนี้

1. คดีแพ่ง

  • ความผิดทางแพ่ง เป็นเรื่องระหว่างเอกชนต่อเอกชนด้วยกัน ไม่มีผลเสียหายต่อสังคมแต่อย่างใด
  • คดีแพ่งเป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวของแต่ละบุคคล ที่สามารถตกลงกันเองได้โดยไม่ต้องให้รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง การดำเนินคดีแพ่งจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีการฟ้องศาลเท่านั้น
  • กรณีตกลงกันไม่ได้ หรือมีความจำเป็นต้องให้ศาลรับรองสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงต้องมีการฟ้องคดีต่อศาลก่อนกระบวนการต่าง ๆ จึงจะเริ่มต้นขึ้น
  • ความผิดทางแพ่ง เป็นเรื่องของการชดใช้สินไหมทดแทนความเสียหายซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล
  • บทลงโทษทางแพ่ง กฎหมายแพ่งนั้นไม่มีโทษเป็นเพียงถูกบังคับให้ชำระหนี้หรือชดใช้ค่าสินไหมทดแทน

2. คดีอาญา

  • ความผิดทางอาญา เป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายหรือเกิดความหวาดหวั่นแก่บุคคลทั่วไป ความผิดทางอาญาจึงถือว่าเป็นความผิดต่อแผ่นดินหรือประชาชนทั่วไป
  • ความผิดทางคดีอาญามีทั้งสามารถยอมความได้ หรือที่เรียกว่า ความผิดต่อส่วนตัว และความผิดที่ไม่สามารถยอมความได้ หรือความผิดต่อแผ่นดิน
  • การดำเนินคดีอาญาจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์
  • สำหรับคดีอาญาอันยอมความได้ ต้องแจ้งความภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องและรู้ตัวคนทำผิด
  • ส่วนคดีอาญาแผ่นดินเป็นคดีอาญาประเภทที่ยอมความไม่ได้ การดำเนินคดีจะเริ่มต้นขึ้นทันทีที่มีการกระทำความผิด
  • กฎหมายอาญา เป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความผิดและโทษ กฎหมายกำหนดโทษทางอาญาไว้ 5 สถาน เรียงตาม ความรุนแรงของโทษ ได้แก่ 1.โทษประหารชีวิต 2.โทษจำคุก 3.โทษกักขัง 4.โทษปรับ 5.โทษริบทรัพย์สิน

คดีแพ่ง มีอะไรบ้าง

1. คดีที่มีข้อพิพาท มีคู่ความ 2 ฝ่าย

    ฝ่ายหนึ่งถูกโต้แย้งเกี่ยวสิทธิ หรือหน้าที่ของตนตามกฎหมายแพ่ง เช่น

  • ฟ้องผู้กู้ให้ชำระหนี้ตามสัญญากู้เงิน/ฟ้องผู้ผิดสัญญา/ผู้ค้ำประกัน
  • ฟ้องบังคับจำนอง/ไถ่ถอนที่ดินขายฝาก/ขับไล่ผู้บุกรุกออกจากที่ดิน
  • ฟ้องให้ผู้ละเมิดต่อสิทธิ เช่น สิทธิในชีวิต/ร่างกาย/ชื่อเสียง ชดใช้ค่าเสียหาย
  • ฟ้องหย่า/รับรองบุตร/เรียกค่าเลี้ยงดูบุตร/เรียกค่าชดเชยจากชู้

2. คดีที่ไม่มีข้อพิพาท

    คดีที่ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อใช้สิทธิทางศาลเพื่อขอให้ศาลรับรองสิทธิหรือคุ้มครองสิทธิของตนเอง เช่น

  • ร้องขอแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
  • ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน โดยการครอบรองปรปักษ์
  • ร้องขอเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์/ทำนิติกรรมแทนผู้เยาว์/ขอสิทธิเลี้ยงดุบุตร
  • ร้องขอให้ศาลสั่งเป็นบุคคลไร้ความสามารถ/เสมือนไร้ความสามารถ/สาบสูญ

ตัวอย่างคดีแพ่ง

     คดีแพ่งเป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวของแต่ละบุคคล การฟ้องคดีแพ่งก็เพื่อเรียกร้องเงินหรือทรัพย์สิน ที่ผิดสัญญาหรือโต้แย้งสิทธิกัน ตัวอย่าง เช่น

  • คดีสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต
  • คดีผิดสัญญาก่อสร้าง
  • คดีเช่าทรัพย์
  • คดีกู้ยืมเงิน ค้ำประกัน จำนำ จำนอง
  • คดีมรดก

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ คดีแพ่ง

1. การถูกฟ้องคดีแพ่ง ติดคุกหรือไม่ ?

   ตอบ  การรับผิดทางแพ่งไม่มีโทษปรับ จำคุก กักขัง ริบทรัพย์สิน ประหารชีวิตเหมือนคดีอาญา โทษสูงสุดของคดีแพ่ง คือ ถูกตัดสินให้ล้มละลาย เว้นแต่ว่าเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวโยงอยู่กับคดีอาญาอาจมีโทษจำคุกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

2. ต้องการฟ้องคดีแพ่ง ต้องฟ้องศาลไหน ?

   ตอบ  คดีที่มีข้อพิพาท ฟ้องศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ หรือฟ้องศาลที่มูลคดีเกิด หากเป็นคดีที่ไม่มีข้อพิพาท ฟ้องศาลที่มูลคดีเกิด หรือฟ้องศาลที่ผู้ร้องมีภูมิลำเนาอยู่

3. ถูกฟ้องคดีแพ่งต้องทำอย่างไร ?

   ตอบ  ตรวจสอบหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ปรึกษาทนายความ จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาล

4. คดีแพ่งไม่ไปศาลได้ไหม ?

   ตอบ  หากไม่ไปศาลเท่ากับเสียสิทธิในการต่อสู้ ศาลจะตัดสินตามคำฟ้องของโจทก์เพียงฝ่ายเดียว โอกาสแพ้คดีสูง หากไม่ไปสามารถแต่งตั้งทนายความเป็นตัวแทนได้

5. หากไม่มีทรัพย์ให้ยึดหรืออายัดเลย จะเป็นอย่างไร ?

    ตอบ  นับตั้งแต่วันมีคำพิพากษา คดีจะมีอายุความ 10 ปี ดังนั้นภายใน 10 ปีนี้ หากลูกหนี้ได้ทรัพย์ใหม่ ๆ มา เจ้าพนักงานบังคับคดีก็สามารถยึดทรัพย์เหล่านั้นได้ จนกว่าจะชำระครบ

6. คดีแพ่งมีอายุความกี่ปี ?

    ตอบ คดีแพ่งแต่ละคดีมีความแตกต่างกัน มีทั้งคดีแพ่งที่มีอายุความสั้นๆ เช่น อายุความฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คมีกำหนด 1 ปี เป็นต้น รวมทั้งมีคดีแพ่งที่มีอายุความ 2 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี

7. คดีแพ่ง ยอมความได้ไหม ?

    ตอบ คดีแพ่ง สามารถยอมความกันได้ การยอมความในคดีแพ่ง เรียกว่า สัญญาประนีประนอมยอมความ

สำนักงานกฎหมายธนกฤช

25 ซอยเจริญนคร 36 ถนนเจริญนคร แขวงบางลำภูล่าง กรุงเทพมหานคร 10600

สาระความรู้กฏหมาย

ฉ้อโกงประชาชน คืออะไร

ในยุคที่เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น การฉ้อโกงผ่านช่องทางออนไลน์ก็กลายเป็นปัญหาที่พบเห็นได้บ่อยและส่งผลกระทบหนักต่อประชาชนทั่วไป คำว่า “ฉ้อโกงประชาชน” จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรทำความเข้าใจให้ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลโกงต่าง ๆ ที่มีการเผยแพร่ในวงกว้าง ความหมายของการฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงประชาชน หมายถึง การกระทำโดยทุจริตหลอกลวงประชาชนทั่วไป ด้วยการแสดงข้อความเท็จหรือปกปิดความจริง เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินหรือผลประโยชน์จากผู้อื่น โดยไม่จำเป็นว่าผู้เสียหายจะต้องเป็นกลุ่มเล็ก ๆ หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น แต่หมายรวมถึงการหลอกลวงที่เผยแพร่สู่สาธารณะ เช่น การไลฟ์สดผ่านโซเชียลมีเดีย หรือการโพสต์โฆษณาชวนลงทุนในโปรเจกต์ที่ไม่มีอยู่จริง ตัวอย่างเช่น หากมีคนอ้างว่าเป็นกัปตันสายการบิน สามารถบินไปซื้อสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ แล้วเปิดรับเงินลงทุนจากประชาชนทั่วไปผ่านไลฟ์สด

กรรมการยักยอกทรัพย์ เคสจริง เกิดขึ้นแล้ว!!

ในโลกธุรกิจ การบริหารจัดการบริษัทอย่างโปร่งใสและมีความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทบาทของกรรมการบริษัทที่มีหน้าที่ดูแลการดำเนินงานและการเงินขององค์กร แต่ในความเป็นจริงก็มีกรณีที่กรรมการบางคนใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางที่ผิด ด้วยการยักยอกทรัพย์สินของบริษัทเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงและสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับบริษัทและผู้ถือหุ้น เรื่องราวของกรรมการที่ยักยอกทรัพย์ เคสที่เกิดขึ้นจริงที่เราเคยรับผิดชอบนั้น เป็นกรณีที่กรรมการบริษัทซึ่งเป็นผู้บริหารหลัก มีหน้าที่ดูแลการเงินและบัญชีของบริษัททั้งหมด แต่กลับใช้โอกาสนี้ในการยักยอกเงินของบริษัทไปใช้จ่ายส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ยังมีการสร้างบัญชีปลอมขึ้นมาเพื่อปกปิดการกระทำผิด เช่น การจ้างบุคลากรที่ไม่มีตัวตนจริง หรือการจ่ายค่าสินค้าบริการที่ไม่มีอยู่จริง โดยอาศัยเอกสารปลอม เช่น ใบวางบิลหรือ voucher ปลอม เพื่อหลอกลวงผู้ตรวจสอบและเจ้าของหุ้น การกระทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดความไว้วางใจของผู้ถือหุ้นและบริษัทเท่านั้น แต่ยังเป็นความผิดทางกฎหมายที่มีบทลงโทษอย่างรุนแรง ผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้น เมื่อกรรมการยักยอกทรัพย์สินของบริษัท

โดนโกง ต้องรีบฟ้อง! มีอายุความแค่ 3 เดือน

การฉ้อโกงเป็นอาชญากรรมที่เกิดขึ้นเมื่อมีผู้ใช้วิธีการหลอกลวง บิดเบือนข้อเท็จจริง หรือสร้างความเชื่อถือผิด ๆ เพื่อให้ผู้อื่นส่งมอบทรัพย์สินหรือเงินทอง การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการละเมิดกฎหมายอย่างร้ายแรง และผู้เสียหายสามารถดำเนินคดีได้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา ตัวอย่างการฉ้อโกงในรูปแบบการลงทุน กรณีที่พบบ่อยในปัจจุบันคือ การหลอกลงทุนในโครงการต่าง ๆ ที่ไม่มีตัวตน เช่น การมีบุคคลมาเสนอโครงการจัดคอนเสิร์ตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อ้างว่าต้องการเงินทุนประมาณ 1.5 ล้านบาท และชักชวนให้นักลงทุนแต่ละคนลงทุนในจำนวน 500,000 บาท ผู้หลอกลวงมักจะสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการเสนอผลตอบแทนที่สูงมาก เช่น ได้กำไรถึง 10% ภายในระยะเวลาเพียง

ส่งงานแล้วไม่จ่ายเงิน ทำยังไงดี

หลายคนที่ทำงานอิสระหรือรับงานโปรเจกต์ต่าง ๆ คงเคยเจอปัญหาเดียวกันนี้ นั่นคือ เมื่อส่งงานให้ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดและสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ทำงานเป็นอย่างมาก ลักษณะการผิดสัญญาที่ควรรู้ เมื่อเราส่งงานให้ลูกค้าครบถ้วนตามที่ตกลงกันไว้ แต่ลูกค้าไม่ชำระเงินค่าตอบแทน นี่ถือเป็นการผิดสัญญาว่าจ้างทำของอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบ งานเขียน งานพัฒนาซอฟต์แวร์ หรืองานในรูปแบบอื่น ๆ การผิดสัญญาในลักษณะนี้ เกิดขึ้นเมื่อฝ่ายหนึ่งปฏิบัติตามข้อตกลงครบถ้วนแล้ว แต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมชำระเงินตามที่ควรจะเป็น ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ของผู้ทำงานและสามารถดำเนินการทางกฎหมายได้ ขั้นตอนแรกในการแก้ไขปัญหา เมื่อเจอปัญหาเช่นนี้ สิ่งแรกที่ควรทำคือ การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าอย่างสุภาพและเป็นระบบ ไม่ควรใช้อารมณ์หรือพูดจาในทำนองที่อาจทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงไปกว่าเดิม