ในยุคที่เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น การฉ้อโกงผ่านช่องทางออนไลน์ก็กลายเป็นปัญหาที่พบเห็นได้บ่อยและส่งผลกระทบหนักต่อประชาชนทั่วไป คำว่า “ฉ้อโกงประชาชน” จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรทำความเข้าใจให้ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลโกงต่าง ๆ ที่มีการเผยแพร่ในวงกว้าง
ความหมายของการฉ้อโกงประชาชน
ฉ้อโกงประชาชน หมายถึง การกระทำโดยทุจริตหลอกลวงประชาชนทั่วไป ด้วยการแสดงข้อความเท็จหรือปกปิดความจริง เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินหรือผลประโยชน์จากผู้อื่น โดยไม่จำเป็นว่าผู้เสียหายจะต้องเป็นกลุ่มเล็ก ๆ หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น แต่หมายรวมถึงการหลอกลวงที่เผยแพร่สู่สาธารณะ เช่น การไลฟ์สดผ่านโซเชียลมีเดีย หรือการโพสต์โฆษณาชวนลงทุนในโปรเจกต์ที่ไม่มีอยู่จริง
ตัวอย่างเช่น หากมีคนอ้างว่าเป็นกัปตันสายการบิน สามารถบินไปซื้อสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ แล้วเปิดรับเงินลงทุนจากประชาชนทั่วไปผ่านไลฟ์สด หากคนดูเชื่อและโอนเงินให้โดยที่ไม่มีการทำตามที่กล่าวอ้าง นี่ถือเป็นการฉ้อโกงประชาชน เพราะมีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จสู่สาธารณะ และมีผู้เสียหายจำนวนมาก
ความแตกต่างระหว่างฉ้อโกงธรรมดาและฉ้อโกงประชาชน
การฉ้อโกงธรรมดา คือ การหลอกลวงกันในกลุ่มเล็ก ๆ หรือบุคคลเฉพาะเจาะจง เช่น การหลอกลวงเพื่อนหรือคนรู้จัก ซึ่งผู้เสียหายต้องเป็นผู้ร้องทุกข์เองและมีอำนาจฟ้องคดีได้ แต่ในกรณีฉ้อโกงประชาชน แม้ผู้เสียหายจะไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงก็สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้ เพราะเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป
โทษของฉ้อโกงประชาชนจึงหนักกว่าฉ้อโกงธรรมดา โดยมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในบางกรณีที่มีการแสดงตนเป็นคนอื่น หรือใช้กลวิธีหลอกลวงผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอ เช่น เด็ก หรือผู้สูงอายุ โทษจะสูงขึ้นอีก
ทำไมต้องรีบแจ้งความเมื่อถูกฉ้อโกงประชาชน
กฎหมายกำหนดให้อายุความในการฟ้องร้องคดีฉ้อโกงธรรมดาอยู่ที่ 3 เดือนนับตั้งแต่วันที่ผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกโกงและรู้ตัวผู้กระทำผิด แต่สำหรับคดีฉ้อโกงประชาชน แม้จะไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงก็สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษได้ และคดีนี้ไม่สามารถยอมความหรือถอนฟ้องได้ง่ายเหมือนคดีฉ้อโกงธรรมดา
ดังนั้น หากตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงประชาชน ควรรวบรวมหลักฐานทั้งหมด เช่น ข้อความสนทนา สลิปโอนเงิน หรือคลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้อง และรีบไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง หรือพื้นที่ที่มีการโอนเงินเกิดขึ้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ข้อควรระวังในการลงทุนและการใช้เงิน
การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงในเวลาสั้น ๆ หรือการชักชวนผ่านโซเชียลมีเดียโดยไม่สามารถตรวจสอบที่มาที่ไปได้ ควรระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะมักเป็นกลลวงเพื่อหลอกเอาเงินจากประชาชน การตรวจสอบข้อมูลและความน่าเชื่อถือของผู้ชักชวนก่อนตัดสินใจลงทุนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก การระมัดระวังและรู้เท่าทันกลโกงในยุคดิจิทัลนี้ จะช่วยลดความเสี่ยงและปกป้องทรัพย์สินของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ