โดนฟ้องยึดทรัพย์ ส่วนสินสมรสจะโดนด้วยไหม?

ผู้ให้ข้อมูล : นายกษิดิศ พรหมธนะ

การถูกฟ้องร้องเพื่อยึดทรัพย์สินเป็นเรื่องที่หลายคนอาจต้องเผชิญ และเมื่อมีการยึดทรัพย์สินแล้ว สิ่งที่หลายคนสงสัยคือ “สินสมรสจะโดนยึดด้วยหรือไม่” ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น โดยจะพูดถึงหลักการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการยึดทรัพย์สินและผลกระทบต่อสินสมรสกัน

สินสมรส คืออะไร?

สินสมรส (Marital Property) หมายถึง ทรัพย์สินที่คู่สมรสได้ร่วมกันสร้างขึ้นหรือซื้อมาในระหว่างการแต่งงาน โดยทั่วไปแล้ว สินสมรสจะรวมถึงทรัพย์สินที่ได้มาหลังจากการแต่งงาน เช่น บ้าน รถยนต์ หรือเงินฝากในบัญชีธนาคาร ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินที่ทั้งสองฝ่ายมีส่วนร่วมในการถือกรรมสิทธิ์

กฎหมายเกี่ยวกับการยึดทรัพย์

เมื่อศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ชำระหนี้และมีการยึดทรัพย์สิน เพื่อชำระหนี้นั้น จะต้องพิจารณาถึงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ถูกยึด หากมีชื่อของคู่สมรสอยู่ในเอกสารกรรมสิทธิ์ร่วมกัน จะมีผลต่อการยึดทรัพย์อย่างไรบ้าง

  1. กรรมสิทธิ์ร่วม: หากคุณมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับคู่สมรสในทรัพย์สิน เช่น โฉนดที่ดิน หรือบ้าน ทรัพย์สินนั้นจะถูกพิจารณาเป็นของทั้งสองฝ่าย
  2. การยึดเฉพาะส่วนของตนเอง: ในกรณีที่มีหนี้เกิดขึ้นและถูกฟ้องร้อง ยึดทรัพย์ได้เฉพาะส่วนที่เป็นของคุณเท่านั้น ไม่สามารถยึดไปถึงส่วนของคู่สมรสได้

การขายทอดตลาด

เมื่อมีการยึดทรัพย์แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการขายทอดตลาด ซึ่งหมายความว่า ทรัพย์สินที่ถูกยึดจะต้องถูกนำไปขายเพื่อแปลงเป็นเงินสด และเงินที่ได้จากการขายจะถูกแบ่งให้เจ้าหนี้ตามสัดส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของสินสมรส

ผลกระทบต่อคู่สมรส กรณีบ้านหรือทรัพย์สินร่วม

หากบ้านหรือทรัพย์สินนั้นถือเป็นสินสมรส เช่น บ้านหลังหนึ่งซื้อมาภายหลังการแต่งงาน และคุณไปก่อหนี้ไว้เอง เมื่อมีการยึดบ้านหลังนั้นออกขายทอดตลาด สมมติว่าบ้านหลังนั้นขายทอดตลาดได้ 2 ล้านบาท เงินจำนวนนี้จะถูกแบ่งให้กับเจ้าหนี้ตามสัดส่วน โดยคุณและคู่สมรสจะได้รับเงินคนละ 1 ล้านบาท เจ้าหนี้สามารถยึดเงินจากส่วนของคุณได้เพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนของคู่สมรสจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการยึด แต่แน่นอนว่าการขายทอดตลาดและการสูญเสียบ้านจะส่งผลกระทบต่อครอบครัวแน่นอน

โดยรวมแล้ว การถูกฟ้องร้องเพื่อยึดทรัพย์สินในกรณีที่มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับคู่สมรสนั้น จะส่งผลกระทบต่อทั้งสองฝ่าย แต่ทางกฎหมายจะอนุญาตให้เจ้าหนี้สามารถยึดได้เฉพาะส่วนของคุณเท่านั้น ส่วนของคู่สมรสจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง อย่างไรก็ตาม ความเสียหายทางจิตใจยังคงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึง ดังนั้น การวางแผนการเงินและการจัดการหนี้อย่างระมัดระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต

เรื่องมาใหม่

การทำธุรกรรมทางการเงินหรือการทำสัญญาในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายสินค้า การลงทุน หรือการให้บริการ แต่เมื่อเกิดข้อพิพาทขึ้น
การหมิ่นประมาท (Defamation) คือ การกระทำที่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยการนำเสนอข้อมูลที่ไม่เป็นจริงหรือข้อมูลที่ทำให้ผู้อื่นถูกดูหมิ่นหรือเกลียดชัง
การถูกฟ้องร้องเพื่อยึดทรัพย์สินเป็นเรื่องที่หลายคนอาจต้องเผชิญ และเมื่อมีการยึดทรัพย์สินแล้ว สิ่งที่หลายคนสงสัยคือ “สินสมรสจะโดนยึดด้วยหรือไม่