หุ้นส่วนบริษัท หากไม่ผิด ควรโต้แย้ง!

ผู้ให้ข้อมูล : นายกษิดิศ พรหมธนะ

            ในการดำเนินธุรกิจในรูปแบบบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน หนึ่งในประเด็นสำคัญที่มักเกิดขึ้น คือความขัดแย้งหรือความไม่เข้าใจกันระหว่างกรรมการหรือหุ้นส่วน โดยเฉพาะในกรณีที่มีการกล่าวหาว่ากรรมการคนใดคนหนึ่งบริหารงานผิดพลาดจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัท ซึ่งอาจนำไปสู่การพิจารณาให้ออกจากตำแหน่ง หรือแม้แต่การเรียกร้องค่าเสียหายจากกรรมการผู้นั้น

ตามหลักกฎหมายแล้ว การแต่งตั้งหรือถอดถอนกรรมการในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน มักจะต้องดำเนินการผ่านที่ประชุมใหญ่ของผู้ถือหุ้นหรือหุ้นส่วน โดยต้องได้รับเสียงข้างมากตามที่กฎหมายหรือข้อบังคับของบริษัทกำหนด ในบางกรณี เมื่อมีข้อกล่าวหาว่ากรรมการบริหารงานผิดพลาด ที่ประชุมใหญ่อาจมีมติให้ถอดถอนกรรมการคนนั้นออกจากตำแหน่ง พร้อมทั้งอาจมีการพิจารณาเรียกค่าเสียหายหากเห็นว่าการกระทำนั้นส่งผลเสียหายต่อบริษัท

ความสำคัญของการโต้แย้งในที่ประชุม

สำหรับกรรมการหรือหุ้นส่วนที่ถูกกล่าวหาว่าบริหารงานผิดพลาด หากมั่นใจว่าตนเองไม่ได้กระทำผิดหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการกระทำของตนโดยตรง ควรใช้สิทธิ์ในการโต้แย้งข้อกล่าวหานั้นอย่างชัดเจน สิ่งสำคัญคือการโต้แย้งควรทำในที่ประชุมใหญ่ทันทีที่มีการอภิปรายเรื่องดังกล่าว โดยขอให้ผู้บันทึกรายงานการประชุมบันทึกข้อความโต้แย้งของตนไว้ในรายงานการประชุมอย่างครบถ้วน เพื่อเป็นหลักฐานว่าตนไม่ยอมรับข้อกล่าวหาและได้แสดงเหตุผลชี้แจงอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ หลังจากการประชุมแล้ว กรรมการหรือหุ้นส่วนที่ถูกกล่าวหายังสามารถจัดทำหนังสือชี้แจงเพิ่มเติมถึงบริษัท เพื่อยืนยันจุดยืนของตนเองและชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหา การมีเอกสารหรือหนังสือโต้แย้งเป็นลายลักษณ์อักษรจะเป็นประโยชน์อย่างมาก หากในอนาคตเกิดกรณีที่บริษัทหรือผู้ถือหุ้นรายอื่นพยายามเรียกร้องค่าเสียหายจากกรรมการผู้นั้น เพราะจะสามารถนำหลักฐานเหล่านี้ไปใช้แสดงต่อศาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ว่า ตนเองไม่ได้เพิกเฉยต่อข้อกล่าวหาและได้ใช้สิทธิ์ในการปกป้องตนเองอย่างเต็มที่

หลักการสำคัญในการปกป้องสิทธิ์

ในทางกฎหมายแพ่ง การโต้แย้งหรือคัดค้านข้อกล่าวหาควรทำเป็นลายลักษณ์อักษรเสมอ เพื่อให้มีหลักฐานชัดเจนว่าตนเองไม่ยอมรับข้อกล่าวหานั้น ๆ และไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวอ้าง การดำเนินการเช่นนี้ไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องสิทธิ์ของตนเองเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความรับผิดชอบและความโปร่งใสในการบริหารงานอีกด้วย

บางครั้ง ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบริษัทอาจไม่ได้เกิดจากการบริหารงานของกรรมการโดยตรง แต่อาจเป็นผลมาจากปัจจัยภายนอกหรือสถานการณ์ทางธุรกิจที่ไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้น การชี้แจงเหตุผลและข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจสถานการณ์อย่างถูกต้องและเป็นธรรม

สรุปแล้ว หากเกิดกรณีที่กรรมการหรือหุ้นส่วนถูกกล่าวหาว่าบริหารงานผิดพลาด ควรดำเนินการโต้แย้งอย่างชัดเจนทั้งในที่ประชุมและด้วยเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อปกป้องสิทธิ์ของตนเองและลดความเสี่ยงในการถูกเรียกร้องค่าเสียหายโดยไม่เป็นธรรม การมีหลักฐานและการสื่อสารที่ชัดเจนจะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาความยุติธรรมให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

เรื่องมาใหม่