สารบัญเนื้อหา

การสืบทรัพย์บังคับคดี

          ปัญหาหนักใจที่เจ้าหนี้หลายคนพบเจอก็คือการที่ลูกหนี้แพ้คดี และศาลมีคำสั่งให้จำเลยหรือลูกหนี้ชำระหนี้แก่เจ้าหนี้แต่ลูกหนี้บางคนไม่ยินยอมชำระหนี้ สิ่งที่ช่วยให้เจ้าหนี้ได้รับเงินจากคู่กรณี ก็คือ การสืบทรัพย์บังคับคดี หากเราไม่มีความรู้ด้านกฎหมายควรทำอย่างไร และสืบทรัพย์ หมายถึงอะไร สำนักกฎหมายธนกฤช มีความรู้มาแนะนำครับ

สืบทรัพย์ หมายถึงอะไร

     การสืบทรัพย์ เป็นการสืบหาทรัพย์สินหรือของมีค่าของลูกหนี้ที่มีอยู่ ที่ตั้งของทรัพย์ เช่น ที่ดิน บ้าน สิ่งปลูกสร้าง และสังหาริมทรัพย์ เช่น รถยนต์ อุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน สินค้าที่สามารถทำการยึดหรืออายัดได้ทั้งปวง บัญชีเงินฝากธนาคาร เพื่อดำเนินการบังคับคดี โดยการอายัดหรือยึดทรัพย์ของลูกหนี้ออกขายทอดตลาด เพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษา 

การสืบทรัพย์ก่อนฟ้อง

    การสืบทรัพย์จะเริ่มขึ้นหลังจากมีคำพิพากษาของศาลให้ลูกหนี้ชดใช้ และดำเนินการบังคับคดี เพื่อให้ลูกหนี้ได้รับการชำระหนี้ตามคำพิพากษา ซึ่งการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง  เจ้าหนี้สามารถยึดหรืออายัดเอากับทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาโดยอำนาจของเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ ดังนี้

1. ทรัพย์สินที่เจ้าหนี้สามารถยึดได้

  • บ้าน ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของลูกหนี้ ทั้งที่ติดจำนองหรือไม่ติดจำนอง
  • รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของลูกหนี้ และไม่ได้เป็นเครื่องมือในการประกอบอาชีพ
  • ของมีค่า เครื่องประดับที่มีมูลค่า เพชร พลอย นาฬิกา สร้อยคอทองคำและของสะสมที่มีมูลค่ารวมเกิน100,000 บาท
  • ของใช้ส่วนตัว อาทิ เสื้อผ้า โต๊ะ เก้าอี้ และเฟอร์นิเจอร์ ที่มีมูลค่ารวมกันเกิน 20,000 บาท
  • เครื่องมือในการประกอบอาชีพของลูกหนี้ ที่มีมูลค่ารวมกันเกิน 100,000 บาท
  • ทรัพย์สินประเภทสัตว์ สิ่งของ เครื่องใช้ ที่ใช้ในการช่วยเหลือหรือแทนอวัยวะ

2. ทรัพย์สินที่เจ้าหนี้สามารถอายัดได้

  • เงินเดือน ค่าจ้าง หรือรายได้อื่นที่มีลักษณะจ่ายค่าตอบแทนการจ้างงานเป็นรายเดือน อายัดได้ไม่เกิน 30% โดยต้องเป็นลูกหนี้ที่มีเงินเดือนมากกว่า 20,000 บาท
  • เงินโบนัส สามารถอายัดได้ แต่ต้องอายัดได้ไม่เกิน 50 %
  • เงินค่าตำแหน่งทางวิชาการ อายัดได้เฉพาะที่เป็นสังกัดเอกชน เพราะถือว่าเป็นเงินเดือน
  • เงินที่ตอบแทนการออกจากงาน โดยปกติอายัดได้ไม่เกิน 300,000 บาท หรือตามเจ้าหน้าที่บังคับคดีเห็นสมควร
  • งินค่าตอบแทนจากการทำงานเป็นชั่วคราว อายัดได้ไม่เกิน 30 %
  • เงินฝากในบัญชี สถาบันการเงิน
  • เงินปันผลจากการลงทุนในหุ้น
  • ค่างวดงานตามสัญญาจ้าง
  • ค่าเช่าทรัพย์สิน

ระยะเวลาการสืบทรัพย์บังคับคดี

   หลังจากชนะคดีมีคำพิพากษาออกมาแล้ว กฎหมายให้เวลาเจ้าหนี้ในการสืบทรัพย์และดำเนินการบังคับคดีกับลูกหนี้เป็นเวลา 10 ปี หากพ้นระยะเวลา 10 ปีไปแล้ว เจ้าหนี้ไม่สามารถดำเนินการยึดหรืออายัดทรัพย์ของลูกหนี้ได้ หมายความว่า นับจากวันที่มีคำพิพากษาเจ้าหนี้สามารถดำเนินการสืบทรัพย์บังคับคดีได้ และเมื่อเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายในการบังคับคดีได้ก่อน 10 ปี และมีการยึดทรัพย์ของจำเลยได้เป็นบางส่วนแล้ว แม้ลูกหนี้จะเป็นหนี้ตามคำพิพากษาเกิน 10 ปีแล้ว หนี้สินส่วนที่เหลือก็ยังถูกยึดทรัพย์ได้ตลอดไปไม่มีระยะเวลาแล้ว หรือจนกว่าจะหมดหนี้ 

     ข้อควรระวังของเจ้าหนี้ สำหรับระยะเวลาการสืบทรัพย์บังคับคดี กรณีหลังจากได้คำพิพากษามาแล้ว เจ้าหนี้ไม่สามารถสืบทรัพย์บังคับคดีได้ภายในระยะเวลา 10 ปี หากพ้นระยะเวลานี้แล้ว แม้ลูกหนี้จะมีเงินทองหรือทรัพย์สินขึ้นมา เจ้าหนี้ตามกฎหมายก็ไม่สามารถไปดำเนินการยึดหรืออายัดได้

3 คำถามที่พบบ่อย ของการสืบทรัพย์บังคับคดี

1. เจ้าหนี้สามารถยึดทรัพย์ของลูกค้า ซึ่งติดจำนองธนาคารหรือบุคคลอื่นได้หรือไม่ ?

    ตอบ  สามารถดำเนินได้ ถ้าเจ้าหนี้จำานองขอรับชำาระหนี้บุริมสิทธิ (ขอรับชำาระหนี้จำนอง) ต่อศาลและศาลมีคำาสั่งอนุญาตเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดภายหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วจะจ่ายชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้จำานองเป็นอันดับแรก ถ้ามีเงินเหลืออีก จึงจะจ่ายให้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์

2. กรณีลูกหนี้เป็นพนักงานประจำ และทรัพย์ของลูกหนี้มีมูลค่าไม่เพียงพอกับหนี้ สามารถให้ พนักงานบังคับคดียึดหทรัพย์ และอายัดเงินเดือนไปพร้อมกันได้หรือไม่

   ตอบ  การบังคับคดีเป็นสิทธิของเจ้าหนี้ ที่จะขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการยึดทรัพย์หรืออายัดเงินเดือนอย่างใดก่อนก็ได้ หรือจะดำาเนินการพร้อมกันก็ได้ แต่ราคาทรัพย์ที่ยึดและจำนวนเงินที่มีการอายัดรวมกันแล้วจะต้องไม่เกินหนี้ตามคำาพิพากษา

3. เจ้าหนี้สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินเดือนคู่สมรสของลูกหนี้ไปที่นายจ้าง ของคู่สมรสของลูกหนี้ได้หรือไม่ ?

     ตอบ  เงินเดือนของคู่สมรสของลูกหนี้ที่ยังไม่ได้จ่ายให้แก่คู่สมรส เป็นสิทธิเรียกร้องที่คู่สมรสของลูกหนี้เท่านั้นที่มีสิทธิเรียกร้องจากบริษัทฯนายจ้างได้ ยังไม่ใช่สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงไม่มีอำานาจอายัดเงินเดือนของคู่สมรสลูกหนี้ไปที่บริษัทฯ นายจ้างของคู่สมรสลูกหนี้ได้

ทนาย สืบทรัพย์ได้ไหม

     ทนายความ คือ ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้ว่าความ ให้คำปรึกษาแนะนำ และดำเนินการทางกฎหมายให้กับบุคคลหรือองค์กร จึงสามารถทำหน้าที่สืบทรัพย์ได้ เนื่องจากการสืบหาทรัพย์สินของลูกหนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหนี้ ซึ่งต่างจากการบังคับคดีเพื่อให้ลูกหนี้ได้รับการชำระหนี้ตามคำพิพากษาที่เป็นหน้าที่ของกรมบังคับคดี แต่เจ้าหนี้ส่วนหนึ่งไม่มีความรู้เรื่องสิทธิและหน้าที่ของตนเองในกระบวนการยุติธรรม ประกอบกับลูกหนี้ส่วนใหญ่มักจะไม่ยินยอมที่จะบอกเจ้าหนี้ว่าตนเองมีทรัพย์สินอะไรอยู่บ้าง อีกทั้งการสืบทรัพย์ยังเป็นการดำเนินการใด ๆ โดยถูกต้องตามกฎหมาย การว่าจ้างทนายความจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดนอกจากทำให้การสืบทรัพย์เพื่อการบังคับคดีเป็นไปตามคำพิพากษา ยังช่วยให้เจ้าหนี้มีโอกาสได้เงินคืนมากที่สุด  

ขั้นตอนการ สืบทรัพย์และบังคับคดี

  1. หมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อดำเนินการสืบทรัพย์สินลูกหนี้
  2. สืบหาทรัพย์สินของลูกหนี้ โดยการสืบค้นว่าลูกหนี้มีทรัพย์สินที่เป็น บ้าน ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของลูกหนี้ ของมีค่า เครื่องประดับที่มีมูลค่า และอื่น ๆ หรือไม่
  3. เมื่อเจอทรัพย์สินลูกหนี้แล้ว จะดำเนินการตั้งเรื่องยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ไว้ ต้อกรมบังคับคดีเพื่อดำเนินการรอการขายทอดตลาด
  4. เมื่อยึดแล้ว เข้าสู่กระบวนการขายทอดตลาด เมื่อขายได้แล้วก็จะได้รับชำระหนี้เงินที่ได้จาก

การขายทอดตลาดให้แก่เจ้าหนี้ต่อไป

รับสืบทรัพย์บังคับคดี โดยทนายมืออาชีพ

     บริษัท สำนักกฎหมายธนกฤช จำกั ให้บริการเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาทางกฎหมายทางธุรกิจ เช่น การสืบทรัพย์บังคับคดี ยึดทรัพย์ บังคับคดี คดีว่าจ้างทำของ คดียักยอกทรัพย์ เป็นต้น สามารถติดต่อได้ทาง : 02 439 3486

สำนักงานกฎหมายธนกฤช

25 ซอยเจริญนคร 36 ถนนเจริญนคร แขวงบางลำภูล่าง กรุงเทพมหานคร 10600

สาระความรู้กฏหมาย

ฉ้อโกงประชาชน คืออะไร

ในยุคที่เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น การฉ้อโกงผ่านช่องทางออนไลน์ก็กลายเป็นปัญหาที่พบเห็นได้บ่อยและส่งผลกระทบหนักต่อประชาชนทั่วไป คำว่า “ฉ้อโกงประชาชน” จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรทำความเข้าใจให้ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลโกงต่าง ๆ ที่มีการเผยแพร่ในวงกว้าง ความหมายของการฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงประชาชน หมายถึง การกระทำโดยทุจริตหลอกลวงประชาชนทั่วไป ด้วยการแสดงข้อความเท็จหรือปกปิดความจริง เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินหรือผลประโยชน์จากผู้อื่น โดยไม่จำเป็นว่าผู้เสียหายจะต้องเป็นกลุ่มเล็ก ๆ หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น แต่หมายรวมถึงการหลอกลวงที่เผยแพร่สู่สาธารณะ เช่น การไลฟ์สดผ่านโซเชียลมีเดีย หรือการโพสต์โฆษณาชวนลงทุนในโปรเจกต์ที่ไม่มีอยู่จริง ตัวอย่างเช่น หากมีคนอ้างว่าเป็นกัปตันสายการบิน สามารถบินไปซื้อสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ แล้วเปิดรับเงินลงทุนจากประชาชนทั่วไปผ่านไลฟ์สด

กรรมการยักยอกทรัพย์ เคสจริง เกิดขึ้นแล้ว!!

ในโลกธุรกิจ การบริหารจัดการบริษัทอย่างโปร่งใสและมีความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทบาทของกรรมการบริษัทที่มีหน้าที่ดูแลการดำเนินงานและการเงินขององค์กร แต่ในความเป็นจริงก็มีกรณีที่กรรมการบางคนใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางที่ผิด ด้วยการยักยอกทรัพย์สินของบริษัทเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงและสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับบริษัทและผู้ถือหุ้น เรื่องราวของกรรมการที่ยักยอกทรัพย์ เคสที่เกิดขึ้นจริงที่เราเคยรับผิดชอบนั้น เป็นกรณีที่กรรมการบริษัทซึ่งเป็นผู้บริหารหลัก มีหน้าที่ดูแลการเงินและบัญชีของบริษัททั้งหมด แต่กลับใช้โอกาสนี้ในการยักยอกเงินของบริษัทไปใช้จ่ายส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ยังมีการสร้างบัญชีปลอมขึ้นมาเพื่อปกปิดการกระทำผิด เช่น การจ้างบุคลากรที่ไม่มีตัวตนจริง หรือการจ่ายค่าสินค้าบริการที่ไม่มีอยู่จริง โดยอาศัยเอกสารปลอม เช่น ใบวางบิลหรือ voucher ปลอม เพื่อหลอกลวงผู้ตรวจสอบและเจ้าของหุ้น การกระทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดความไว้วางใจของผู้ถือหุ้นและบริษัทเท่านั้น แต่ยังเป็นความผิดทางกฎหมายที่มีบทลงโทษอย่างรุนแรง ผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้น เมื่อกรรมการยักยอกทรัพย์สินของบริษัท

โดนโกง ต้องรีบฟ้อง! มีอายุความแค่ 3 เดือน

การฉ้อโกงเป็นอาชญากรรมที่เกิดขึ้นเมื่อมีผู้ใช้วิธีการหลอกลวง บิดเบือนข้อเท็จจริง หรือสร้างความเชื่อถือผิด ๆ เพื่อให้ผู้อื่นส่งมอบทรัพย์สินหรือเงินทอง การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการละเมิดกฎหมายอย่างร้ายแรง และผู้เสียหายสามารถดำเนินคดีได้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา ตัวอย่างการฉ้อโกงในรูปแบบการลงทุน กรณีที่พบบ่อยในปัจจุบันคือ การหลอกลงทุนในโครงการต่าง ๆ ที่ไม่มีตัวตน เช่น การมีบุคคลมาเสนอโครงการจัดคอนเสิร์ตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อ้างว่าต้องการเงินทุนประมาณ 1.5 ล้านบาท และชักชวนให้นักลงทุนแต่ละคนลงทุนในจำนวน 500,000 บาท ผู้หลอกลวงมักจะสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการเสนอผลตอบแทนที่สูงมาก เช่น ได้กำไรถึง 10% ภายในระยะเวลาเพียง

ส่งงานแล้วไม่จ่ายเงิน ทำยังไงดี

หลายคนที่ทำงานอิสระหรือรับงานโปรเจกต์ต่าง ๆ คงเคยเจอปัญหาเดียวกันนี้ นั่นคือ เมื่อส่งงานให้ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดและสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ทำงานเป็นอย่างมาก ลักษณะการผิดสัญญาที่ควรรู้ เมื่อเราส่งงานให้ลูกค้าครบถ้วนตามที่ตกลงกันไว้ แต่ลูกค้าไม่ชำระเงินค่าตอบแทน นี่ถือเป็นการผิดสัญญาว่าจ้างทำของอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบ งานเขียน งานพัฒนาซอฟต์แวร์ หรืองานในรูปแบบอื่น ๆ การผิดสัญญาในลักษณะนี้ เกิดขึ้นเมื่อฝ่ายหนึ่งปฏิบัติตามข้อตกลงครบถ้วนแล้ว แต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมชำระเงินตามที่ควรจะเป็น ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ของผู้ทำงานและสามารถดำเนินการทางกฎหมายได้ ขั้นตอนแรกในการแก้ไขปัญหา เมื่อเจอปัญหาเช่นนี้ สิ่งแรกที่ควรทำคือ การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าอย่างสุภาพและเป็นระบบ ไม่ควรใช้อารมณ์หรือพูดจาในทำนองที่อาจทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงไปกว่าเดิม