โดนโกง ต้องรีบฟ้อง! มีอายุความแค่ 3 เดือน

ผู้ให้ข้อมูล : นายกษิดิศ พรหมธนะ

การฉ้อโกงเป็นอาชญากรรมที่เกิดขึ้นเมื่อมีผู้ใช้วิธีการหลอกลวง บิดเบือนข้อเท็จจริง หรือสร้างความเชื่อถือผิด ๆ เพื่อให้ผู้อื่นส่งมอบทรัพย์สินหรือเงินทอง การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการละเมิดกฎหมายอย่างร้ายแรง และผู้เสียหายสามารถดำเนินคดีได้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา

ตัวอย่างการฉ้อโกงในรูปแบบการลงทุน

กรณีที่พบบ่อยในปัจจุบันคือ การหลอกลงทุนในโครงการต่าง ๆ ที่ไม่มีตัวตน เช่น การมีบุคคลมาเสนอโครงการจัดคอนเสิร์ตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อ้างว่าต้องการเงินทุนประมาณ 1.5 ล้านบาท และชักชวนให้นักลงทุนแต่ละคนลงทุนในจำนวน 500,000 บาท

ผู้หลอกลวงมักจะสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการเสนอผลตอบแทนที่สูงมาก เช่น ได้กำไรถึง 10% ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนปกติอย่างมาก เมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปแล้ว ผู้หลอกลวงก็จะไม่นำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ แต่อาจนำไปใช้เพื่อการส่วนตัว หรือแท้จริงแล้วโครงการที่อ้างถึงนั้นไม่มีอยู่จริงเลย นี่คือลักษณะการฉ้อโกงที่ชัดเจน

เงื่อนไขการพิสูจน์ความผิด

เพื่อให้สามารถดำเนินคดีฉ้อโกงได้สำเร็จ ผู้เสียหายจำเป็นต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าผู้กระทำผิดไม่ได้นำเงินไปใช้ตามที่ได้แจ้งไว้จริง หรือพิสูจน์ให้ได้ว่าโครงการหรือการลงทุนที่อ้างถึงนั้นไม่มีอยู่จริง หลักฐานที่สำคัญประกอบไปด้วย การสนทนาหรือเอกสารที่แสดงถึงคำเสนอการลงทุน หลักฐานการโอนเงิน หลักฐานที่แสดงว่าเงินไม่ได้ถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ และหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

วิธีการดำเนินคดีอาญา

เมื่อมีหลักฐานเพียงพอแล้ว ผู้เสียหายสามารถเลือกดำเนินการได้ 2 วิธี คือ การแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนหรือการฟ้องคดีผ่านทนายความโดยตรง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนและออกหมายเรียกผู้ต้องหา วิธีนี้ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่อาจใช้เวลานานกว่าเนื่องจากต้องรอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามลำดับ

วิธีที่สองคือ การว่าจ้างทนายความให้ดำเนินการฟ้องคดีอาญาโดยการยื่นคำร้องไต่สวนมูลฟ้องต่อศาลโดยตรง วิธีนี้อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า แต่การดำเนินการจะเร็วกว่าและมีการติดตามอย่างใกล้ชิด

ในหลายกรณี เมื่อศาลรับฟ้องคดีและประทับตราว่าคดีมีมูลแล้ว ผู้กระทำผิดจะเริ่มรู้สึกกดดันจากกระบวนการยุติธรรม ทำให้หลายคนตัดสินใจนำเงินมาคืนให้ผู้เสียหายเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดี การดำเนินคดีอาญาจึงไม่เพียงแต่เป็นการลงโทษผู้กระทำผิด แต่ยังเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการบีบบังคับให้ได้เงินคืน ทำให้ผู้เสียหายมีโอกาสได้รับชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น

ข้อสำคัญเรื่องอายุความ

สิ่งที่ผู้เสียหายต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งคือ เรื่องอายุความ กฎหมายกำหนดให้การฟ้องคดีอาญาเรื่องฉ้อโกงมีอายุความเพียง 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ผู้เสียหายรู้ถึงการกระทำความผิด หรือควรจะรู้ถึงการกระทำความผิดนั้น

หากพบว่าตนเองตกเป็นเหยื่อการฉ้อโกง ควรรีบรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อความหรือการสนทนา หลักฐานการโอนเงิน เอกสารสัญญาหรือข้อตกลง และติดต่อทนายความหรือไปแจ้งความทันที

การดำเนินการอย่างรวดเร็วไม่เพียงจะช่วยให้ไม่พลาดเรื่องอายุความ แต่ยังเพิ่มโอกาสในการได้เงินคืนและป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดหลบหนีหรือกระทำผิดกับผู้อื่นต่อไป การลังเลหรือคิดว่าจะแก้ไขด้วยวิธีอื่นอาจทำให้สูญเสียโอกาสที่สำคัญในการเอาผิดกับผู้กระทำผิดได้

เรื่องมาใหม่